ครูสายธรรม โรงเรียนบ้านรุน อ.เมือง โวยครูการเงินทำไม่ถูก หักเงินค่าอาหารกลางวันนักเรียนไปส่งงวดรถ ห่วงอนาคตของชาติแค้นสุดๆปะทะคารมเดือดยกชุด รวม ผอ. เผยเด็กกินไม่อิ่ม ทักท้วงมาหลายครั้งกลับถูกไล่ให้ลาออก วอนตรวจสอบโครงการอาหารกลางวัน
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก (ครูแอ๊ด) อายุ 59 ปี ครูโรงเรียนวัดบ้านรุน ต.บัวทอง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่าผู้บริหารโรงเรียน และครูฝ่ายการเงินของโรงเรียน มีพฤติกรรมไม่โปร่งใสในการบริหารงาน โดยเฉพาะการยักยอกเงินอาหารกลางวัน แล้วปล่อยให้เด็กกินแบบอดๆอยากๆ เมื่อเข้าไปตรวจสอบ พบครูแอ๊ด อยู่กับชาวบ้าน คุ้มหลังร้องไห้ฟูมฟาย พร้อมกับพูดว่า”แค่ถามว่าเงินอาหารกลางวันเด็กหายไปเดือนละ 4,800ไปไหน”ก็ถูกครูร่วมโรงเรียนกดดันให้ลาออก
จากการตรวจสอบพบนักเรียนกำลังกินข้าวเที่ยง อาหารมีแกงหน่อไม้ 1 อย่างและของหวานเป็นขนมวุ้น 2 ชิ้นต่อถาด ใกล้กันมีครูในโรงเรียนกำลังนั่งล้อมวงรับประทานด้วยกัน
ต่อมาได้มีนายรังสรรค์ มโนปราณีต ผอ.โรงเรียน เดินทางมาที่โรงอาหาร พร้อมกล่าวว่า โรงเรียนมีเป้าหมายให้เด็กนักเรียนได้อยู่ดีกินดี อาหารกลางวันทุกมื้อจะต้องดีและมีประโยชน์ ส่วนเรื่องการหักเงินโครงการอาหารกลางวัน ตนไม่ทราบเรื่อง
เมื่อครูแอ๊ดได้ยินเสียงสัมภาษณ์ ได้โต้แย้งคำพูดของ ผอ.เป็นระยะ สร้างความไม่พอใจให้กับคณะครูที่นั่งรับประทานอาหาร จนเกิดการทะเลาะกันกลางวงกับข้าว โดยครูแอ๊ด ได้ท้าให้ ผอ.และครูการเงินออกมาชี้แจงกรณีการหักเงินค่าอาหารกลางวันเด็กไปจ่ายค่างวดรถ
จากนั้น ครูการเงินของโรงเรียน ออกมาตอบโต้ทันทีว่า อาหารกลางวันก็คืออาหารกลางวัน มันไปเกี่ยวข้องอะไรกับการเงินหากจะตรวจสอบบัญชีก็พร้อมให้ตรวจน.ส.มณีวรรณ ผู้ร้อง กล่าวว่า ตนสอนโรงเรียนบ้านรุน มานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่มีโครงการอาหารกลางวัน ตนสังเกตเห็นความผิดปกติหลายอย่าง โดยเฉพาะอาหารกลางวันเด็กไม่ได้คุณภาพ ตนเป็นห่วงเรื่องคุณภาพอาหารที่เด็กได้อิ่มและตุณภาพทางด้านสารอาหาร จนผู้ปกครองนักเรียนฝากบอกมาว่าลูกหลานกินอาหารเที่ยงไม่อิ่ม แต่ตนทำอะไรไม่ได้เพราะไม่ได้รับมอบหมาย
จนกระทั่งตน ผอ.ได้มอบหมายให้ตน รับผิดชอบเรื่องงบอาหารกลางวัน ซึ่งจะมีงบเดือนละ 21,000 บาท เงินจำนวนดังกล่าว สามารถซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารจนเหลือ เด็กได้กินอิ่ม
แต่ในช่วงหลังตนได้ขอเบิกเงินค่าอาหารกลางวันกับการเงิน แต่ได้มาไม่ครบหายไป 4,800 บาท ครูการเงินกลับบอกว่า”เอาไปจ่ายค่างวดรถ กับเลี้ยงครอบครัว”ตนจึงลาออกการรับผิดชอบเพราะรับไม่ได้
ตนซึ่งเป็นคนถือศีล รับไม่ได้กับการกระทำของการเงิน พยายามทักท้วง ผอ.มาตลอดแต่กลับไม่มีใครสนใจ จนตัวเองถูกรังเกียจกลายเป็นแกะดำในโรงเรียน แต่ตอนนี้ใกล้เกษียณราชการแล้ว อยากจะออกมาทำเพื่อเด็กนักเรียนและเพื่อความยุติธรรมเป็นครั้งสุดท้าย เพราะมีอีกหลายอย่างในโรงเรียนต้องได้รับการแก้ไข
///////////////////
ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง/
-----------------------------------------------

0 ความคิดเห็น